วันพุธที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2556


                                         5 รูปแบบอาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ต



1.แฮกเกอร์ (Hacker)
พวกแอบดูหรือขโมยข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น  เช่น  การแอบดูพาสเวิร์ดแล้วนำข้อมูลที่ได้ไปก่อคดีอาชญากรรม  แต่บางครั้งมีการแอบเข้าไปดูข้อสอบหรือความรู้อื่น ๆ เนื่องจากบางครั้งเทคโนโลยีก็มีจุดโหว่เป็นช่องว่างให้เข้ามาได้ กฎหมายใหม่จึงต้องกำหนดให้ชัดเจนว่า การเข้าไปดูข้อมูลที่ไม่ได้รับอนุญาตนั้นเป็นการกระทำที่เป็นความผิดอาญา เช่น การไปแอบดูข้อมูลบัตรเครดิตผู้อื่น
 2.แครกเกอร์ (Cracker)
พวกที่ทำความเสียหายในระบบ เช่น เข้าไปโกง ฟอกเงิน เข้าไปบิดเบือดข้อมูล ขโมยความลับของบริษัทเอกชนหรือเข้าไปขโมยข้อมูลความลับของชาติ   ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ที่ร้ายแรงที่สุด
3.เผยแพร่ไวรัส
พวกนี้แม้ว่าจะไม่ได้ทำอาชญากรรมโดยตรง แต่เป็นพวกที่จับยากที่สุด เพราะไวรัสเผยแพร่เร็วและขยายวงกว้าง ทั้งในปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน  ทางกระทรวงไอซีทีจึงจะมีการยกร่างกฎหมายเกี่ยวกับไวรัสขึ้น เพื่อให้ใกล้เคียงกับกฎหมายของสหรัฐฯ
4.อาชญากรรมในส่วนของการทำธุรกรรมทางอินเทอร์เน็ต
โดยเฉพาะเรื่องของการซื้อของทางอินเทอร์เน็ตแล้วไม่จ่ายเงิน ส่วนนี้ต่อไปเมื่อ พ.ร.บ.อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ประกาศใช้ จะสามารถตามจับคนที่ทำผิดได้ แต่ก็มีข้อจำกัดที่จับได้เฉพาะการทำความผิดที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เช่น การซื้อของแบบอี-คอมเมอส์ ที่คนขายอยู่ประเทศหนึ่ง คนซื้ออยู่อีกประเทศและแหล่งสินค้าอาจจะอยู่อีกประเทศก็เป็นได้ เพราะปัจจุบันมีการค้าในรูปแบบนี้อยู่มาก
5.การกำจัดภาพโป๊อนาจารแบบรื้อเครือข่าย
กระทรวงไอซีทีควบคุมได้ เพราะส่วนใหญ่ก็ทำจากเครื่องพีซี ทุกวันนี้ป้องกันไม่ให้คนมาเปิดดู พยายามไล่ติดตามปิดบล็อกที่ไอเอสพี ไม่ให้เปิดดูเว็บไซต์ ล่าสุดกำลังไล่ติดตามจับคนที่ทำเว็บไซต์เหล่านี้ด้วย โดยมีข้อมูลเว็บไซต์ภาพโป๊อนาจารในประเทศไทยมีอยู่ ประมาณ 120 เว็บไซต์จะลิงค์ถึงกันเป็นเครือข่าย เพื่อหาสมาชิกใหม่
      แม้โลกออนไลน์จะเปิดกว้าง  แต่ก็มีขอบเขตควบคุมที่รัดกุมขึ้น  ดังนั้น  หากคุณจะเข้าใช้อินเตอร์เน็ต  ควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่า เข้าข่ายมีความผิดใน 5 กลุ่มนี้หรือไม่  จะได้ไม่ถูกจับโดยไม่รู้ตัว 

จาก  http://www.job1hit.com/news/1638/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น